Skip to content
ปลูกผมด้วยเทคนิค Medi Long Hair FUE ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ใช้ชีวิตปกติหลังปลูกผมได้ทันที
สารบัญเนื้อหา
ข้อดีของการปลูกผมแบบ Medi Long Hair FUE
- ได้ผมที่ยาวทันทีหลังปลูก พร้อมออกงานหรือพบปะผู้คนทันที
- เห็นผลทันทีว่าเมื่อผมขึ้นเต็มที่แล้วจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นการย้ายผมที่ยาวเลยไปปลูก
- คนไข้สามารถไว้ผมทางด้านหลังสั้นได้ ไม่จำเป็นต้องไว้ผมยาวเพื่อปิดแผลเป็นยาวจากการตัดหนังศีรษะแบบเทคนิค FUT
- ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด เช่นการตัดโดนเส้นเลือดหรือเส้นประสาททางด้านหลังศีรษะ
- ไม่มีการกรีดแผลยาวที่ด้านหลัง ทำให้หลังการผ่าตัดคนไข้รู้สึกสบาย ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดของแผลผ่าตัดแบบเทคนิค FUT
- ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น การดูแลแผลง่ายและสะดวก แผลด้านหลังหายได้เองใน 3 ถึง 5 วัน ไม่ต้องมาตัดไหมที่คลินิก
ขั้นตอนการปลูกผม Medi Long Hair FUE เป็นอย่างไร
- แพทย์ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจสภาพเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อประเมินความพร้อมคนไข้ก่อนการผ่าตัด
- แพทย์วาดออกแบบแนวผมร่วมกับคนไข้ และทำการเช็ครูปแบบแนวผมที่ออกแบบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- แพทย์ทำการเลือกบริเวณที่ผมแข็งแรง ซึ่งมักจะเป็นบริเวณท้ายทอยด้านหลังและด้านข้าง ซึ่งวิธี Medi long hair FUE จะไม่มีการโกนผมคนไข้ก่อนผ่าตัด
- ก่อนการผ่าตัดคนไข้จะได้รับยานอนหลับและคลายกังวลแบบอ่อน การผ่าตัดปลูกผมเป็นการผ่าตัดภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ (local anesthesia)
- Donor harvesting: แพทย์เจาะผมจากด้านหลัง โดยใช้เครื่องมือพิเศษ mamba, Trivellini System ซึ่งมีหัวเจาะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการทำแบบ long hair เจาะตรงบริเวณรอบกอผม ตามพื้นที่ที่กำหนด จากนั้นจึงดึงกอผมที่มีความแข็งแรงเหล่านั้นออกมา
- Graft preparation: นำกอผมหรือกราฟ (graft) ไปตรวจความสมบูรณ์ภายใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง และตัดแต่งให้มีขนาดเหมาะสมกับการนำไปปลูก ซึ่งขั้นตอนนี้ ทีมแพทย์จะตัดแต่งผมให้ขนาดพอดีกับบริเวณที่จะปลูก ทำให้แผลบริเวณที่ปลูกเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ระหว่างขั้นตอนกราฟผม จะถูกแช่ในสารละลายสูตรเฉพาะของ Medi hair clinic และใช้ตู้ให้ความเย็นที่ให้อุณหภูมิของกราฟคงที่ เพื่อให้มีอัตราการเกิดใหม่ของกราฟผมที่สูงที่สุด
- ทุกขั้นตอนของการปลูกผม ต้องใช้ความละเอียดประณีตและความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์อย่างมากเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
รีวิวหลังปลูกผม ด้วยเทคนิค Medi LongHair FUE